เมตาโลเสท แมงกานีส อยู่ในรูปโครงสร้างร่วมกับกรดอะมิโนจึงทำให้แมงกานีสเข้าสู่พืชได้ดีและ เคลื่อนย้ายไปสู่พืชใบได้อย่างรวดเร็ว มีคุณสมบัติช่วยส่งเสริมปฏิกิริยาของ คลอโรฟิลด์ และทำให้เกิดปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงของไนโตรเจนไปเป็นน้ำตาล เพิ่มปริมาณของวิตามิน เพิ่มกลิ่นหอมช่วยเพิ่มสีสันของผลผลิตให้สวยขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยทำให้ผลผลิต เช่น ชา กาแฟโกโก้ ฯลฯ มีกลิ่น หอม และรสชาติน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

บาร์โค้ด:

8859009400036

ยี่ห้อ :

โปรเจ็คฟิลด์

ส่วนผสม:

Manganese(Mn) 5.6%

ส่วนประกอบ:

Manganese(Mn) 5.6%

การใช้งาน:

1.)กลุ่มไม้ผล : มะม่วง องุ่น ส้มโอ มะนาว ใช้อัตรา 10-30มล./น้ำ 20 ลิตร พ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 15 วัน ในระยะแรกใบอ่อน ใบเพสลาด 2.)กลุ่มพืชไร่ : ตระกูลถั่ว ยาสูบ ข้าวโพด มันฝรั่ง ใช้อัตรา 10-30 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ 80-120 มล./ไร่ พ่น 1-2 ครั้ง ในระยะ 2-3 สัปดาห์หลังปลูก และทุกๆ 20 วัน (สำหรับการสูบ) 3.)กลุ่มผัก : ตระกูลมะเขือ ขึ้นฉ่าย ถั่วต่างๆ ผักกาดหัว แครอท คะน้าหอม กระเทียม ข้าวโพดหวาน ใช้อัตรา 10-30มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ 80-160 มล./ไร่ พ่น 1 ครั้ง ในระยะ 2-3 สัปดาห์ หลังปลูก 4.)ข้าว : ใช้อัตรา 20-40 มล./น้ำ 20 ลิตร หรือ 40-80 มล./ไร่ พ่น 1-2 ครั้ง ในระยะแตกกอ และตั้งท้อง 5.)กลุ่มไม้ดอก : เยอร์บีร่า ใช้อัตรา 40 มล./น้ำ 20 ลิตร พ่น 1 ครั้งในระยะเจริญ เติบโตทางใบ

ข้อควรระวัง:

1.)โดยทั่วไปแล้วปุ๋ยเคมีพ่นทางใบ พืชใช้ประโยชน์ได้น้อย ควรใช้เป็นปุ๋ยเคมีเสริมกับการให้ปุ๋ยเคมีทางดิน 2.)ควรพ่นในช่วงเวลาเช้าหรือเย็น ในเวลาที่อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรง และคาดว่าฝนไม่ตก 3.) ขณะที่พ่น พืชต้องไม่เหี่ยวเฉา หรือขาดน้ำ 4.) การพ่น อย่าให้ถึงเปียกโชก เพราะจะทำให้เสียค่าปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้น และประสิทธิภาพปุ๋ยเคมีที่ใช้พ่น ทางใบเมื่อตกลงดินจะมีประสิทธิภาพเท่ากับปุ๋ยเคมีที่ใส่ทางดิน 5.) ควรเก็บรักษาปุ๋ยเคมีในภาชนะที่มิดชิด ในที่ร่มและแห้ง และควรเก็บปุ๋ยเคมีไว้ในที่ปลอดภัย ห่าง ไกลจากมือเด็ก 6.) ระวังอย่าให้ถูกผิวหนังหรือเข้าตา หากถูกผิวหนังหรือเข้าตา ควรล้างด้วยน้ำสะอาดทันที 7.) ปุ๋ยเหลวอาจมีก๊าซเกิดขึ้น และอาจเป็นอันตรายได้ง่าย ควรเปิดด้วยความระมัดระวัง

อัพเดตเมื่อ:

09/11/2020 15:37:37